Thursday 20 September 2018

จอร์จทาวน์ : มรดกโลกเจ้าอาณานิคม


        แบกเป๋าเป้ชวนไปปีนัง...

       นับวันได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเพื่อจุดประสงค์เดียวคือ โก ทู ปีนัง...หลังจากที่พาเที่ยวชมวัดวาอารามกันมาหลายต่อครั้งแล้ว คราวนี้แบกเป๋าเป้จะพามาเปลี่ยนมุมเที่ยวสไตล์ชิคๆ ชิวๆ กันบ้าง ซึ่งจุดหมายปลายทางของเราก็คือ รัฐปีนัง หรือที่เขาขนามนามกันว่าเป็น  "แดนไข่มุกแห่งตะวันออก"




        
พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรมลายูประเทศมาเลเซีย โดยรัฐปีนังประกอบด้วยส่วนที่เป็นเกาะซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 285 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่แผ่นดินใหญ่ที่เรียกว่า Seberang Perai ประมาณ 760 ตารางกิโลเมตร พื้นที่สองส่วนเชื่อมกันด้วยสะพานปีนังและมีช่องแคบที่มีความกว้างเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น 


    
            และที่รัฐปีนังแห่งนี้คือที่ตั้งของ จอร์จทาวน์  (Georgetown) ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งรัฐปีนังนั่นเอง อดีตกาลที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างหลั่งใหลมาเยือนจอร์จทาวน์ นอกจากจะได้เห็นย่านช็อปปิ้ง หาดทรายสวยงาม ศูนย์ราชการ ย่านธุรกิจและการผสมผสานทางวัฒนธรรมของคนหลายเชื้อชาติแล้ว จอร์จทาวน์ยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมแบบ Sino-Portuguese ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างจีน-โปรตุเกส ที่นี่จึงนับว่าเป็นแหล่งที่มีอาคารเก่าแก่จำนวนมากที่สุดในประเทศมาเลเซีย
  




Georgetown in History

      
จอร์จทาวน์ คือเมืองหลวงของรัฐปีนังตามชื่อพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งอังกฤษ  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะปีนังหลังจากที่ปีนังถูกส่งต่อให้เป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยสุลต่านแห่งรัฐเคดาห์ซึ่งแต่ก่อนเคยปกครองปีนัง  กระทั่ง เซอร์ ฟรานซิส ไลท์ ได้ก่อตั้งเมืองจอร์ทาวน์ขึ้นและทันทีที่เขาได้สร้างป้อม Fort Cornwallis ที่นี่ได้กลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรก ในปี 1957 ชื่อจอร์จทาวน์ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นชื่อเมืองจนถึงปี 1972 จอร์จทาวน์กลายเป็นเมืองเดียวในมาเลเซียที่ได้รับอนุญาติให้ใช้ชื่อที่มาจากตะวันตก





      
       ย้อนกลับไปเมื่อโปรตุเกสเป็นชาติแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำการค้าบริเวณเมืองท่ามะละกา ได้นำเอาวัฒนธรรมและวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาเผยแพร่โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมเรื่องการสร้างบ้านเรือน อย่างไรก็ตามการสร้างบ้านเรือนตั้งอาศัยช่างชาวจีนในการวางผังแต่ลักษณะสถาปัตยกรรมได้เพี้ยนไปจากแบบของโปรตุเกส
          โดยช่างชาวจีนได้ตกแต่งลวดลายสัญลักษณ์และรูปแบบบางส่วนของตัวอาคารตามคติความเชื่อของจีน จึงเกิดการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมโปรตุเกสและจีน เป็นเอกลักษณ์ที่มีลักษณะเฉพาะของกลุ่มคน 3 เชื้อชาติ ได้แก่ โปรตุเกส จีนและมลายู
          ต่อมาเมื่อชาวดัตช์และอังกฤษเข้ามามีอิทธิพลในแหลมมลายู ก็ได้ปรัปปรุงตัวอาคารโดยดัดเเปลงและเพิ่มลวดลายต่างๆ แม้ว่าอังกฤษและดัตช์จะเข้ามามีอิทธิพลในการผสมผสานศิลปะของตนเองเข้าไปในยุคหลังด้วยก็ตาม แต่ก็ยังคงเรียกรวมกันว่า จีน-โปรตุเกส หรือ 
Sino-Portuguese เหมือนเดิม


Architecture 

      การผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบจีน-โปรตุเกส คือการผสานกันระหว่างศิลปะยุโรปและศิลปะจีน อาจกล่าวได้ว่าเป็น 
สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม (Colonial Style) มีลักษณะเป็นตัวอาคารสองชั้นกึ่งที่อยู่อาศัย จะมีด้านหน้าอาคารที่ชั้นล่างมีช่องโค้งต่อเนื่องกันเป็นระยะๆ เพื่อให้เกิดการเดินเท้า นอกจากนี้อาคารแบบอาณานิคมก็ยังมีการนำลวดลายศิลปะแบบตะวันตกแบบกรีกโรมัน หรือ ศิลปะคลาสสิก เช่นหน้าต่างวงโค้งเกือกม้าหรือหัวเสาแบบไอออกนิกและคอรินเทียน มาปรับใช้เรียกว่า คลาสสิกใหม่
สิ่งที่ผสมผสานศิลปะแบบจีนคือลวดลายการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพประติมากรรมนูนต่ำหรือนูนสูงทำด้วยปูนปั้นระบายสีของช่างฝีมือชาวจีน มักจะประดับอยู่บนโครงสร้างอาคารแบบโปรตุเกส บานหน้าต่าง ตลอดจนการตกแต่งภายในที่มีลักษณะเป็นศิลปะแบบจีน


Georgetown Highlights and Features
Penang Peranakan Mansion หรือคฤหาสถ์เปรานากัน 
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจอร์จทาวน์ ในอดีตเคยเป็นที่พำนักของ กัปปิตัน ชุง เค็ง ควี่ ผู้นำคนงานชาวจีนและองกรค์ลับไห่ซานเมื่อปี 1867 ต่อมากลายเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและควบคุมการผูกขาดทางการค้าก่อนบ้านหลังนี้จะถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์
-ค่าเข้าชม 20 ริงกิต
-เปิดทุกวัน 09:30-17:00 น.
-ถนน Church Street จอร์จทาวน์ 





Cheong fatt tze mantion หรือ บ้านคหบดีเฉิงฟัตเจ๋อ 
คฤหาสถ์สีฟ้าแบบจีนที่ตั้งอยู่ในย่านจอร์จทาวน์ เคยเป็นที่พำนักของ เฉิงฟัตเจ๋อ บุคคลสำคัญของจีนในสมัยที่มีการจัดตั้งเขตช่องแคบปีนังในศตวรรษที่ 19 และสร้างโดยช่างฝีมือชาวจีน ตัวคฤหาสถ์ประกอบด้วยห้อง 38 ห้อง ลานหน้าบ้านมีทางเดินหินแกรนิต 5 แห่ง บันได 7 จุดและหน้าต่าง 220 บานเกล็ดแบบโกธิค กำแพงก่อด้วยอิฐ สร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ยประดับด้วยรูปปั้น รูปสลักและผ้า
-ตั้งอยู่บนถนนเลบูห์ เล็ท ระหว่างถนนเลบูห์ชูเลียและถนนสุลต่านอาหมัดซาห์


Penang Cheong Fatt Tze Mansion (Blue Mansion) front of the building

Penang Cheong Fatt Tze Mansion (Blue Mansion) hallway1

Penang Cheong Fatt Tze Mansion (Blue Mansion) hallway2



Kapitan Keling Mosque หรือ มัสยิดกาปิตัน เคลิง 
     สร้างขึ้นครั้งแรกโดยกลุ่มคนของบริษัทอีสอินเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในปีนังในช่วงปลายทศวรรษที่ 1700 ชาวมุสลิมที่นำโดย คาวเดอร์ มิดิน เมอร์ริคัน หรือที่รู้จักในนาม กาปิตัน เคลิง ได้รับที่ดินแปลงหนึ่งเนื้อที่ 18 เอเคอร์ ด้านนอกของมัสยิดล้อมด้วยกำแพงเตี้ยๆ ตัวมัสยิดมีสีขาว ประดับด้วยโดมและหอคอยแบบโมกุลสีเหลือง ภายในมีมาดราซาห์ (สถานที่สอนศาสนา) และบริเวณมุมถนนบักกิ้งแฮมและพิตสตรีทมีหอคอยสูงซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้ประกาศเรียกชาวมุสลิมมาทำละหมาดตั้งอยู่
      -ตั้งอยู่ระหว่างถนนเลบูห์เลียและบักกิ้งแฮม






Khoo Kongsi หรือ บ้านสกุลคู่

    บ้านประจำตระกูลคู่หลังนี้สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1890 กล่าวกันว่า มีความหรูหราเท่าราชวังของจักรพรรดิจีน ความหรูหราดังกล่าวทำให้ทวยเทพพิโรธ คืนแรกที่สร้างบ้านเสร็จเกิดไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ ไฟวอดเผาทำลายบ้านทั้งหลังและบ้านถูกสร้างขึ้นอีกครังในค.ศ. 1902 บ้านสกุลคู่คือหนึ่งในบ้านประจำตรูห้าหลังในจอร์จทาวน์ เป็นบ้านประจำตระกูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนัง ตัวบ้านใช้เสาไม้ขนาดย่อมรองรับน้ำหนักของหลังคา กระเบื้องสีแดงซึ่งมีรูปโค้งเล็กน้อย ด้านบนสลักรูปมังกร หงส์ สัตว์ในตำนาน รวมทั้งภาพวาดต่างๆที่ได้รับความนิยมในหมู่คนจีน ภายในมีห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งตกแต่งด้วยไม้สลักละเอียด ประณีตและหรูหรา เล่ากันว่าเป็นฝีมือระดับปรมาจารย์ของชาวจีน
 -มีทางเข้าสองทาง ประตูด้านหนึ่งอยู่บนถนนมัสยิดกาปิตันเคลิงระหว่างเนียนสตรีทและเลบูห์อาเจะห์ 
-ประตูอีกด้านอยู่บนถนนลาบูห์ปันไต ระหว่างอาร์เมเนียนสตรีทและเลบูห์อาเจะห์


Khoo Kongsi




      Kek Lok Si หรือ วัดเก๊กลกสี่

           เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอีกชื่อหนึ่งว่า Temple of Supreme Bliss สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ เจดีย์สมเด็จพระรามหก แต่ละชั้นจะประดิษฐานพระพุทธรูปและองค์ทวยเทพต่างๆ นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่อีกด้วย

Kek Lok Si Chinese Temple, Air Itam, Malaysia -  "Temple of Supreme Bliss" 

Built in 1891, Kek Lok Si Temple on Penang Island in Malaysia is one of the largest Buddhist temples in Southeast Asia.

Kek Lok Si, George Town, Malaysia - The Kek Lok Si Temple (simplified Chinese: 极乐寺) is a Buddhist temple situated in Air Itam in Penang and is one of the best known temples on the island.


            Street Art 
            สำหรับ Street Art ที่นี่จะเป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะข้างถนน โดยคำนึงถึงการใช้องค์ประกอบดั้งเดิม มามีส่วนร่วมในงานศิลปะแต่ละชิ้น เช่น การหยิบเสา หน้าต่าง หรือช่องเปิด มาวาดเพิ่มเรื่องราวให้กับองค์ประกอบนั้นๆเพื่อให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสถานที่ ผลงานสร้างชื่อเป็นของ Ernest Zacharevic ศิลปินชาวลิทัวเนียที่มีโอกาสมาเยือนปีนังในปี 2012 และสร้างผลงานศิลปะไว้บนฝาผนัง 12 รูป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลศิลปะและวัฒนธรรมจอร์จทาวน์ โดยแต่ละรูปจะสะท้อนวิถีชีวิตคนในท้องถิ่น เช่น  Kids on Bicycle บนถนน Armenian






UNESCO World Heritage Site 
จอร์จทาวน์ร่วมกับเมืองมะละกา ได้มีพัฒนาการการค้าและการเเลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมร่วมกันมายาวนานกว่า 500 ปี อิทธิพลของเอเชียและยุโรปทำให้เมืองนี้มีมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่เฉพาะเจาะจง เมืองประวัติศาสตร์จอร์จทาวน์มีอาคารเก่าแก่กว่า 12,000 แห่ง ประกอบด้วยอาคารร้านค้า โบสถ์ มัสยิด อนุสาวรีย์ สำนักงานรัฐบาล  อาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัยต่างๆจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลอังกฤษตั้งแต่ยุคปลายศตวรรษที่ 18 ด้วยเหตุนี้จอร์จทาวน์ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 

         จอร์จทาวน์แห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคม อาจไม่ใช่เมืองที่ทันสมัยเหมือนกัวลาร์ลัมเปอร์แต่เป็นเมืองที่หลายๆ คนกลับต้องมนต์เสน่ห์ในบรรยากาศแบบโบราณ การนั่งสามล้อปั่นจักรยานชมเมือง เดินเล่นชิวๆ ทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ชวนหลงใหล แบกเป๋าเป้แนะนำว่าที่นี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ควรพลาด...และครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาให้ได้








ที่มาภาพ :

เที่ยวปีนัง สัมผัสมนตร์เสน่ห์เมืองเก่าสุดฮิป 
ภาพจาก https://travel.kapook.com/view129975.html

ทริปบินเดี่ยวเที่ยวปีนัง งบ 5 พันเอาอยู่ ภาพจาก https://www.chillpainai.com/scoop/8205/

Penang Street Art สุดชิคพร้อมลายแทงกันหลง ภาพจาก https://www.tem-temmax.com/penang-street-art/

Cheong fatt tze mantion ภาพจาก https://kosublog.com/en/malaysia-brunei-day3-3-1509/

Khoo Kongsi ภาพจาก https://travel.mthai.com/world-travel/186737.html

Kek Lok Si  ภาพจาก https://www.trover.com/d/14YNS-kek-lok-si-chinese-temple-air-itam-malaysia


Kapitan Keling Mosque ภาพจาก  https://www.expedia.com/Kapitan-Keling-Mosque-Downtown-George-Town.d6113862.Vacation-Attraction





ที่มาบทความ :

Georgetown: Capital of Penang Island
.(มมป.).ค้นคว้าเมื่อ 19/09/2018,จากเว็บไซต์  http://www.wonderfulmalaysia.com/georgetown-city-penang-malaysia.htm

Old Georgetown Street at Penang.(มมป.).ค้นคว้าเมื่อ 19/09/2018, จากเว็บไซต์ http://www.penang.ws/penang-attractions/georgetown-unesco.htm

Penang Malaysia.(มมป.). ค้นคว้าเมื่อ 20/09/2018,จากเว็บไซต์ https://www.penang.com/v/history/

สถาปัตยกรรมจีน-โปรตุเกส.(มมป.).ค้นคว้าเมื่อ 20/09/2018,จากเว็บไซต์ https://th.wikipedia.org/wiki/สถาปัตยกรรมจีน-โปรตุเกส

Malaysian Truly Asia.(มมป.).ค้นคว้าเมื่อ 20/09/2018,จากเว็บไซต์ http://www.malaysia.travel/th-th/th/global-search?q=ปีนัง







No comments:

Post a Comment